คำถามที่พบบ่อย FAQ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป

ควรเตรียมตัวในการสอบเข้า ม.1 ให้ลูก ตั้งแต่เมื่อไหร่

การเริ่มต้นที่ไม่เป็นการเร่งรัดมากเกินไป อาจเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงประถมต้น (ป.1-3) สำหรับในวิชาหลัก ๆ เช่น เลข ภาษาอังกฤษ ที่เป็นการเรียนเพื่อให้เด็ก ๆ มีความมั่นใจไม่กลัว โดยไม่ควรนำไปอิงกับคะแนนสอบที่โรงเรียน เพราะทั้ง 2 วิชานี้เป็นวิชาทักษะ ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝน เป็นการเตรียมให้ลูกได้ออกไปเจอกับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ด้วย

และถ้าเป็นการสอบเข้า ม.1 ควรเริ่มต้นตั้งแต่ ป.4 เพราะจะมีการใช้คะแนนสะสม 5 เทอม ตั้งแต่ ป.4 ถึง ป.6 เทอม 1 จะต้องมีเกรดเฉลี่ยทุกเทอม 3.5 ขึ้นไป และใน 3 วิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อังกฤษ ก็ต้องมีเกรดเฉลี่ยทุกเทอม อยู่ที่ 3.5 ขึ้นไป  เพราะเด็กที่มีเกรดเฉลี่ย 3.5 ขึ้นไป จะมีโอกาสสอบได้ 2 ครั้ง คือรอบห้องพิเศษ และห้องปกติ

“บ้านอยู่ใกล้โรงเรียนที่จะสอบ เลยอยากให้สอบเข้าที่โรงเรียนนี้” คิดแบบนี้ได้หรือไม่

ปัจจัยหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ ต้องเช็คก่อนเลย คือ บ้านใกล้โรงเรียน แล้วใช่เป็นเขตพื้นที่การศึกษาของโรงเรียนหรือไม่เพราะโรงเรียนดังหลายแห่ง จะมีอัตราการรับเด็กในพื้นที่การศึกษา น้อยกว่าเด็กนอกพื้นที่ เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบ ปีการศึกษา 2566 รับเด็กในพื้นที่ 22 คน นอกพื้นที่ 202 คน เป็นต้น

โรงเรียนดังหลายแห่ง รับเด็กในพื้นที่น้อย จะหมดโอกาส หรือไม่ควรไปสอบใช่หรือไม่

อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ รับเด็กในพื้นที่น้อย แต่ครูพบว่า อัตราการแข่งขันก็น้อย เช่นเดียวกัน เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบ รับเด็กในพื้นที่ 22 คน แต่อัตราการแข่งขันเพียง 1.77 และรับเด็กนอกพื้นที่ 202 คน อัตราการแข่งขันอยู่ที่ 7.24 ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังกันด้วยนะคะ

Pretest ก่อนสอบ จำเป็นหรือไม่

การสอบ Pretest มีข้อดีหลายด้าน ดังนี้

  1. ทำให้รู้ถึงความพร้อมของลูก จุดที่ต้องเสริม วิชาที่ต้องสนับสนุน
  2. ช่วยในการวางแผนต่อไป ว่าจะเข้าโรงเรียนใด เพราะการสอบคัดเลือกจริง วันสอบจะตรงกัน
  3. สามารถสอบได้หลายที่ เพราะการจัดสอบ Pretest มักจะจัดไม่พร้อมกัน ดังนั้น เด็ก ๆ ควรมีโอกาสได้สอบ Pretest มากกว่า 1 ครั้ง เพื่อประเมินความพร้อมเป็นระยะ
  4. หากผลสอบออกมาไม่ดี นี่เป็นโอกาสทอง ที่จะเข้าไปพูดคุยกับลูก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความห่วงใย และพร้อมช่วยเหลือและวางแผนการทบทวนไปด้วยกัน
  5. ควรไปเริ่ม Pretest ตั้งแต่ ป.5 เพื่อให้รู้ว่าเกรด 4.00 ที่ลูกได้นั้น พอแข่งขันในการสอบหรือไม่ 
    1. Pretest ที่จัดสอบที่โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนดังหลายแห่งจะมีการจัดสอบ เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เป็นต้น

      ข้อดี คือ – เด็ก ๆ จะได้เห็นบรรยากาศจริงของโรงเรียน จะได้สร้างแรงจูงใจ

      • เห็นแนวข้อสอบ ก็จะช่วยให้ประเมินได้ว่าลูกมีความพร้อมแค่ไหน
      • ได้อยู่ในบรรยากาศจริง จะทำให้เมื่อถึงวันสอบจริง เด็ก ๆ จะไม่มีความประหม่า หรือกังวล
    2. Pretest ที่จัดสอบตาม Web ต่าง ๆ เช่น Dek-D , Genius Creators เป็นต้น ข้อดี – มีแนวข้อสอบที่คัดเลือกมาเพื่อให้เหมาะสมกับการสอบในแต่ละปี
      • สามารถทำข้อสอบ Online ได้ 
      • มีการวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง ว่าควรต้องเสริมเรื่องใด
      • มีเฉลยข้อสอบให้ เพื่อนำไปศึกษาเพิ่มเติม
การสอบเข้า ม.1 มีการสอบช่วงไหนบ้าง

ปัจจุบันนี้มีสนามสอบเข้า ม.1 ที่มีช่วงเวลาในการสอบต่างกัน แต่ประเด็นหลักที่จะให้เด็ก ๆ มีโอกาสสอบได้หลายสนาม สิ่งสำคัญประการแรก คือ เรื่องเกรดเฉลี่ยสะสม ต้องไม่ต่ำกว่า 3.5 และเกรดในวิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ต้องไม่ต่ำกว่า 3.5 (โดยดูคะแนนถึง ป.6 เทอม 1)

รอบสนามสอบจะมีแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

  1. สอบเข้ากลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ซึ่งจะต้องมีการสอบทั้งหมด 2 รอบ 

รอบที่ 1 คะแนนสอบจากการสอบ สสวท ในวิชาคณิตศาสตร์ โดยเป็นการสอบแบบเติมคำตอบ จำนวน 25 ข้อ เวลา 120 นาที  และวิทยาศาสตร์ เป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อเวลา 120 นาที โดยจะให้น้ำหนักคะแนน คณิตศาสตร์ : วิทยาศาสตร์ 60 : 40 โดยแปลงเป็นคะแนน T- Score 

คนที่ได้คะแนน 300 อันดับแรกในโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยแต่ละที่ จะมีสิทธิ์สอบรอบต่อไป

รอบที่ 2 จะมีการสอบ 2 วิชา ในวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ตามหลักเกณฑ์ วัน เวลา ของโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ทั้ง 12 แห่ง ตามที่ได้สมัครไว้

  1. สอบเข้ากลุ่มโรงเรียนสาธิตฯ ซึ่งจะมีการจัดสอบไม่พร้อมกัน ต้องตรวจสอบข้อมูลของแต่ละโรงเรียน
  2. สอบเข้ากลุ่มโรงเรียนสังกัด สพฐ. กลุ่มนี้จะมีการจัดสอบพร้อมกันทุกโรงเรียน ดังนั้นเราต้องมีการวางแผน เช็คอัตราการแข่งขัน จำนวนที่รับ การคัดเลือกจะมีการจัดสอบ 2 รอบ ดังนี้

รอบที่ 1 รอบห้องพิเศษ ซึ่งจะมีหลายประเภทตามแต่ละโรงเรียน และวิชาที่จะใช้สอบก็จะขึ้นอยู่กับห้องที่เลือก  เช่น ห้องกิ๊ฟท์วิทย์ ห้อง EP เป็นต้น รอบนี้เด็กที่เข้าสอบจะต้องมีคะแนนสะสมเฉลี่ยตลอด 5 เทอม มากกว่า 3.5 และอาจมีการกำหนดเกรดรายวิชาที่บังคับขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียน

รอบที่ 2 รอบห้องปกติ  จะทำการสอบทั้งหมด 5 วิชา คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคม

ในรอบนี้ทั้ง 5 วิชาจะมีน้ำหนักคะแนนเท่ากัน ถือว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมให้ดีทั้ง 5 วิขา